วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

Code นาฬิกาบล็อก




<embed src="http://www.clocklink.com/clocks/bloguru003-black.swf?TimeZone=ICT&"  width="150" height="150" wmode="transparent" type="application/x-shockwave-flash">





<embed src="http://www.clocklink.com/clocks/mailhigh002-navy.swf?TimeZone=ICT&"  width="91" height="30" wmode="transparent" type="application/x-shockwave-flash">




<embed src="http://www.clocklink.com/clocks/free002-white.swf?TimeZone=ICT&"  width="150" height="150" wmode="transparent" type="application/x-shockwave-flash">




<embed src="http://www.clocklink.com/clocks/0001-orange.swf?TimeZone=ICT&Place=&"  width="150" height="150" wmode="transparent" type="application/x-shockwave-flash">

วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ปรับแต่ง SEO Onpage บน Blogger

Onpage SEO สำหรับ Blogger นั้นหมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Search Engine สามารถมองเห็นได้จากบล็อกของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย
► Keyword in Domain Name
► Keyword in Title Tag
► Keyword in Description Meta Tag, Keyword Meta Tag
► Keyword in URL
► Keyword in H1, H2 and H3
► Keyword Density in Body Text
ถ้าเราปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีบล็อกของคุณก็จะมีโอกาส ติด Index ได้ง่าย

มาเริ่มขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

1. Domain Name :
ความจริงแล้วถ้าเราต้องการทำ Blogger เพื่อการเผยแพร่ (ไม่ได้เก็บไว้อ่านเอง) การตั้งชื่อบล็อกของคุณก็ควรจะนำ Keyword มาตั้งชื่อ Blog ของคุณด้วย หรือ การจดโดเมนก็ควรจะแทรก Keyword เข้าไปในชื่อโดนเมนด้วย

► ยกตัวอย่าง: ต้องการสร้างบล็อกจากเกี่ยวกับเกมส์ อาจจะตั้งชื่อว่า thaigamer.blogspot.com หรือ gamerzone.blogspot.com เป็นต้น

แต่ถ้าหากคุณมั่นใจว่าคุณสามารถสร้าง แบรนด์ จากเนื้อหาที่เขียนได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Keyword มาช่วย ก็ตั้งชื่อโดเมนได้ตามใจชอบครับ

2. Keyword in Title Tag :
ในกรณีที่ Domain Name ของคุณไม่ได้ใช้ Keyword มาช่วย หรือจดโดเมนไปแล้วและแก้ไขอะไรตอนนี้ไม่ได้ คุณก็สามารถใช้ Title Tag เข้ามาช่วยได้โดยวิธีปรับแต่ง Title Tag บน Blogger ตามสูตรของผม (รับรองว่าไม่ซ้ำกับที่อื่น) ทำได้ดังนี้ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Road Map SEO Keyword Research On Blogger

Keyword เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้บล็อกหรือเว็บไซต์ของเราถูกค้นพบได้โดยง่าย เพราะในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ บนโลก Internet ผู้คนส่วนใหญ่มักจะใช้ keyword ในการค้นหา เช่นถ้าคุณสนใจเรื่องการทำ Blogger คุณก็อาจจะใช้คำค้นว่า Blogger ,สอนทำ Blogger หรือวิธีสร้าง Blogger เป็นต้น

Algorithm ของ Search Engine เองก็ให้ความสำคัญกับ keyword เช่นกัน โดยจะเก็บสถิติการค้นของคำต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งข้อมูลที่เก็บไว้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำ SEO ทั่วไป หรือสำหรับผู้ที่ทำ Internet Marketing เช่น PPC (Pay Per Click) Amazon Affilate ก็หยิบจับสถิติเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ Search Engine เองก็จะตีความเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์หรือบล็อกเองได้ยากถ้าในเนื้อหาหรือในหน้าของเว็บไซต์หรือบล็อกนั้น ๆ ไม่มีความ Density (ความหนาแน่น) ของ Keyword เพียงพอ และจะส่งผลสืบเนื่องต่ออันดับการค้นหาที่ไม่ดีไปด้วย

แบบไหนจึงจะเรียกว่า Keyword?

โค้ด น้ำมัน ทอง ติดบล็อก

Code ราคาทองคำวันนี้ ราคาทองรูปพรรณวันนี้
<iframe src="http://namchiang.com/ncgp2-1.swf" width="172" height="165" frameborder="0" marginheight=0 marginwidth=0 scrolling="no"></iframe>

Code ราคาน้ำมัน PTT
<iframe marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://www.pttplc.com/th/oilprice.asp" frameBorder=0 width=173 scrolling=no height=305></iframe>

วิธีทำดังนี้
  เข้าไปที่ Design

มาที่ Add a Gedget

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

เปลี่ยน template

http://btemplates.com
http://www.premiumbloggertemplates.com/
http://www.bloggertemplates4you.com/
http://www.deluxetemplates.net
http://simplexdesign.blogspot.com/
http://www.besttheme.net/


วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

โค้ดแต่ง bloggang

โค๊ดใส่ภาพเฮดบล็อก (ภาพที่แสดงด้านบนสุดของบล็อก)

ภาพที่ใช้อย่ากว้างเกินไปเพราะจะทำให้บล็อกขยายออกด้านข้างมากไป นำโค๊ดไปใส่ที่ ตั้งชื่อ Slogan
<center><img border="0" src="ใส่ URL ของภาพที่จะใช้"></center>

โค๊ด ให้คลิกดูภาพขนาดจริง(เมื่อคลิกจะแยกออกไปแสดงอีกหน้าเว็บเพจ)

<a
href="URL ของภาพ" target=_blank><*img src=URL ของภาพ
width='ความกว้างที่จะแสดง'height='ความสูงที่จะแสดง'
border=0></a>

โค๊ดใส่ภาพที่จะให้ทดลองคลิกดูได้

การเริ่มต้นของก้าวเล็กๆ

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Blog อันนี้ทำขึ้นมาเพื่อต้องการจัดเก็บข้อมูลและเทคนิคต่างๆในการทำ sEo ของผมเองเพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่บทความส่วนมากจะมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ บางครั้งเจอเว็บดีๆ อยู่หลายอันแต่เก็บ URL เอาไว้ใหนก็ไม่รู้บางครั้งก็เก็บแบบรวมกองๆกันเอาไว้เวลาจะหาเอามาใช้ก็หาไม่เจอเลยเบื่อกับอาการของตัวเองก็เลยคิกว่าเอาของเจ้าของมาแล้วมาเขียนในแบบที่ตัวเองเข้าใจดีกว่าจะได้ซึมซับมากกว่ามานั่งอ่านแล้วก็ลืมมันไป